Young-Royals

Young Royals เจ้าชาย

ตัวอย่างซีรีย์

Young Royals เจ้าชาย

ชื่อเรื่อง : Young Royals
ชื่อไทย : เจ้าชาย
แนวซีรีส์ : โรแมนติก, ดราม่า
สร้างโดย : ลิซ่า อัมบเยิร์น ,ลาร์ส เบ็คคุง ,คามิลล่า โฮลเตอร์
นำแสดงโดย : เอ็ดวิน ไรดิง ,โอมาร์ รัดเบิร์ก ,มอลเต้ การ์ดิงเงอร์ ,ฟรีดา อาร์เจนโต ,นิกิต้า อูกลา
ประเทศ : สวีเดน
จำนวนฤดูกาล : 2
จำนวนตอนออกอากาศ : 12 ตอนจบ ตอนละ 40-50 นาที

เรื่องย่อ Young Royals เจ้าชาย

เป็นเรื่องราวของเจ้าชายวิลเฮล์ม เมื่อข่าวฉาวของเจ้าชายวิลเฮล์ม รัชทายาทแห่งราชวงศ์สูงส่งหลุดรอดออกมาดังไปทั่วโลกโซเชี่ยล ด้วยความมีอภิสิทธิ์ของความเป็นเจ้าชายอยู่นั้น ครอบครัวของราชวงศ์จึงส่งตัวเจ้าชายให้ไปที่โรงเรียนประจำฮิลเลอร์สก้าร์ที่ ซึ่งรวมคนมีหน้ามีตามากมายที่ได้เข้ามาเรียนอยู่ที่นั่น

และเขาก็ได้รู้จักกับ ออกัสตุส เพื่อนของพี่ชายของเขาที่คอยมาดูแลและพาเขานั้นเข้าสู่โลกของอิสระที่ซึ่งไร้ขีดจำกัดมากกว่าที่เขานั้นคาดการณ์ พร้อมทั้งเพื่อนอีกคนที่ชื่อเฟลิซ สาวผิวดำที่ใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองเจ้าชายเพื่อประคับประคองฐานะของตัวเธอเอง ซาร่า สาวสวยผู้ร่าเริงและได้เป็นโรคแอสเพอร์เกอร์หรือสมาธิสั้นที่เธอนั้นมี

ความสามารถที่โดดเด่นในด้านการควบคุมม้าในคอกของเฟลิซ แต่เบื้องหลังของโรงเรียนประจำที่ดูเหมือนจะสวยหรูนี้ แต่จริง ๆ แล้วมีการเหยียดกันทางทางชนชั้นอย่างรุนแรง การรับน้องสุดหฤโหดที่ผิดมนุษย์ และเรื่องผลประโยชน์ระหว่างครูกับนักเรียนที่มีมากกว่าที่เขารับรู้ การทำทุกอย่างแข่งขันกันเพื่ออยู่ในจุดที่สูงสุดของโรงเรียนนี้

ท่ามกลางความสับสนวุ้นวายที่เกิดขึ้นมากมายวิลเฮม์ได้พบกับความสัมพันธ์ที่ชวนให้เขานั้นถลำลึกกับ ซีมอน เด็กหนุ่มผู้ยากไร้ผู้น่าสงสาร พี่ชายของซาร่าที่ทำทุกอย่างเพื่อให้สามารถอยู่โรงเรียนนี้อย่างปกติสุด ความเห็นอกเห็นใจของเขานำมาสู่ความรักระหว่างชายหนุ่มทั้งสองคน

จนกระทั่งเหตุบางอย่างที่ทำให้เขาผลักดันให้วิลเฮลม์ต้องเลือกว่าจะทำหน้าที่ตามราชวงศ์ที่ต้องการ หรือความรักที่จริงแท้ของเขากับเด็กหนุ่มธรรมดาแบบสบายใจไม่ต้องกังวลกับผลที่ตามมา

รีวิวความรู้สึกหลังจากรับชมซีรีย์

เป็นซีรีส์ที่ครบรสทั้งดราม่า โรแมนติกได้ แบบหวานปนขมปี๋ แต่ก็ยังดูได้เรื่อยๆ ยันจบ เป็นเรื่องที่ไม่ได้หวือหวามากมาย มีอืดๆบ้างบางตอนเพราะต้องการให้ซึมซับไปกับตัวละคร

ซึ่งเป็นการแสดงที่เป็นธรรมชาติของนักแสดง ความยาว 6 ตอนอาจจะรู้สึกว่ามันสั้นไปหน่อยเมื่อได้เจอกับบทสรุปที่เหมือนเรื่องราวไม่ได้ไปไหนหยุดนิ่งอยู่แค่นั้น แต่ตัวละครแต่ละตัวนั้นต่างก็มีมุมมองที่น่าสนใจนอกจากตัวเอกแล้วยังมีการใช้ชีวิตที่พัวพันกันไปมาจนยุ่งเหยิงไปหมด ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่อาจจะไม่ได้ใหม่

และคิดว่าจะกล้าเล่นเรื่อง LGBTQ+ มากกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าแค่ส่วนประกอบย่อยของเรื่องนี้เท่านั้น เพราะความจริงมันคือซีรีส์ที่ตีแผ่ความเน่าเฟะของสังคมชนชั้นสูงที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายโดยไม่ได้คำนวณถึงคนอื่นเลย เหมือนกับเราที่ดูหนังแล้วคิดว่าตัวละครทำไมไม่ทำแบบนั้นทำไมไม่ทำแบบนี้ แต่ถ้ามองกลับกันถ้าเรานั้นเจอกับตัว จะสามารถรับมือได้อย่างเจ้าชายคนนี้หรือไม่หรือจะรับมืออย่างไร

Similar Posts